- bkbtodaynews
- เกษตรและสิ่งแวดล้อม
- อ่าน: 784
หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.อุดรธานี เติมน้ำเขื่อนห้วยหลวง เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร ที่กำลังเพาะปลูก
- bkbtodaynews
- เกษตรและสิ่งแวดล้อม
- อ่าน: 432
ฝนหลวงฯ จังหวัดเชียงใหม่บรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บ และบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ
วันที่ 18 เมษายน 2565 นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากข้อมูลสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางตอนบนของประเทศไทยยังคงมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความชื้นยังคงพัดปกคลุมทางตอนบนของประเทศ ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคใต้ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้มีฝนตกตลอดสัปดาห์ สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวโดยทั่วไปของประเทศไทย อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงขอให้ประชาชนในประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากความแปรปรวนของสภาพอากาศในระยะนี้ไว้ด้วย สภาวะอากาศดังกล่าว ส่งผลให้มีแนวโน้มในการปฏิบัติการฝนหลวงได้
โดยเมื่อวานนี้ (17 เมษายน 2565) กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้วางแผนบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 9 หน่วยปฏิบัติการ เพื่อช่วยบรรเทาความรุนแรงของพายุลูกเห็บให้กับบางพื้นที่ของ จ.เชียงใหม่ ลพบุรี ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ บรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่าบริเวณพื้นที่ อ.สามเงา จ.ตาก เพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนห้วยหลวง และอ่างเก็บน้ำคลองสียัด รวมถึงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ อุดรธานี นครราชสีมา ชลบุรี และสระแก้ว
ด้านนายรัฐกร วรุณสุขะศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการติดตามสภาพอากาศในวันนี้จากการตรวจสภาพอากาศของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรทั่วทุกภูมิภาค พบว่า ระยะนี้ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศมีมากกว่า 60% และสภาพอากาศเข้าเงื่อนไข จึงมีแผนขึ้นบินเพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จำนวน 5 หน่วยฯ ดังนี้
- หน่วยฯ จังหวัดแพร่ มีแผนให้การช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จังหวัดพิษณุโลก แพร่ พิจิตร เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร สุโขทัย อุตรดิตถ์ น่าน และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย
บำรุงแดน และอ่างเก็บน้ำในพื้นที่รับผิดชอบ
- หน่วยฯ จังหวัดนครราชสีมา มีแผนให้การช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร และพื้นที่รับน้ำเขื่อน
ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ นครราชสีมา ชัยภูมิ มหาสารคาม สุรินทร์ และจังหวัดร้อยเอ็ด
- หน่วยฯ จังหวัดกาญจนบุรี มีแผนให้การช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.กาญจนบุรี นครปฐมนนทบุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ราชบุรี และกรุงเทพมหานคร
- หน่วยฯ จันทบุรี มีแผนให้การช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สระแก้ว จ.ฉะเชิงเทราและพื้นที่
ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำคลองสียัด จ.ฉะเชิงเทรา
- หน่วยฯ หัวหิน มีแผนให้การช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร และอ่างเก็บน้ำจังหวัดเพชรบุรี
ในขณะที่อีก 6 หน่วยปฏิบัติการ ยังคงติดตามสภาพอากาศระหว่างวันอย่างใกล้ชิด หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการ ทุกหน่วยฯ มีความพร้อมสามารถวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการได้ทันที ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account TikTok : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100 ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
- Super User
- เกษตรและสิ่งแวดล้อม
- อ่าน: 769
ซีพีเอฟ ชู ระบบคอนแทรคฟาร์มมิ่ง 5 ทศวรรษที่ช่วยยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีเกษตรกรไทย
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ยก "โครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์แก่เกษตรกรรายย่อย" ที่ดำเนินต่อเนื่องตลอด 5 ทศวรรษ ได้ร่วมสนับสนุนความมั่นคงทางอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรรายย่อยของไทยกว่า 5,900 ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน พึ่งพาตนเองอย่างเข้มแข็ง มีส่วนช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับชุมชนและประเทศ ควบคู่กับการผลิตเนื้อสัตว์ที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สร้างความมั่นคงด้านอาหารให้คนไทย
- bkbtodaynews
- เกษตรและสิ่งแวดล้อม
- อ่าน: 454
12 เม.ย. วันป่าชุมชนชายเลนไทย CPF หนุนชุมชนร่วมดูแลป่าชายเลน ปกป้องฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนดูแลผืนป่าชายเลน จับมือหน่วยงานภาครัฐและชุมชนในพื้นที่ ดำเนิน“โครงการ ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน” ระยะที่สอง (ปี 2562-2566) อนุรักษ์ ฟื้นฟู และปลูกป่าใหม่ ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ระยอง และตราด ควบคู่สร้างงานสร้างอาชีพให้ชุมชน ต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวิถีชุมชน สร้างความมั่นคงทางอาหาร พร้อมทั้งนำร่องโครงการกับดักขยะทะเล สร้างมูลค่าเพิ่มขยะทะเลและปกป้องฟื้นฟูระบบนิเวศ
นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนองค์กร ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ ดำเนินโครงการ “ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน” มุ่งมั่นมีส่วนร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟู และปลูกป่าเพิ่มเติม เป็นการดำเนินโครงการในลักษณะยุทธศาสตร์ระยะยาว ซึ่งปัจจุบันเข้าสู่ระยะที่สอง (2562-2566) ของการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ระยอง และตราด ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และรักษาสมดุลระบบนิเวศทางทะเล
“ซีพีเอฟเป็นบริษัทผลิตอาหาร ต้องพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ ซีพีเอฟจึงให้ความสำคัญกับการจัดหาอย่างรับผิดชอบ ทั้งการตรวจสอบย้อนกลับ การสนับสนุนเครือข่ายเพื่อการจัดหาปลาป่นที่ยั่งยืน รวมทั้งการนำแนวทางการแก้ปัญหาด้วยวิถีธรรมชาติ (Nature –Based Solutions ) เข้าเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพ” นายวุฒิชัย กล่าว
บริษัทฯ ทำการประเมินผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จากการดำเนินโครงการซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน ในพื้นที่จ.สมุทรสาคร และ ระยอง พบว่าผลกระทบทางบวกด้านเศรษฐกิจ คนในชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากกรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยว ค่าแรงจากการจ้างงานชุมชน การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และผลผลิตจากธรรมชาติ รวมถึงมีแหล่งอาหารที่มั่นคงของชุมชนเพิ่มขึ้น ด้านสังคม คนในชุมชนได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านสังคม มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่า มีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมและเผยแพร่องค์ความรู้ และผลทางบวกด้านสิ่งแวดล้อม พบว่าป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์ขึ้น ช่วยป้องกันการกัดเซาะแนวชายฝั่ง เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำตามธรรมชาติ ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
นอกจากนี้ ภายใต้ยุทธศาสตร์ป่าชายเลน บริษัทฯ ยังได้ริเริ่มโครงการกับดักขยะทะเล โดยนำร่องพื้นที่ตำบลบางหญ้าแพรก จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการจัดการขยะทะเล สร้างรูปแบบการจัดการขยะทะเลที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มขยะทะเลและปกป้องฟื้นฟูระบบนิเวศ สร้างความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลและชายฝั่ง
ซีพีเอฟ ดำเนินโครงการ "ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน" มาตั้งแต่ปี 2557 ผลการดำเนินโครงการระยะที่หนึ่ง (ปี 2557- 2561) อนุรักษ์ ฟื้นฟู และปลูกป่าใหม่ รวมทั้งสิ้น 2,388 ไร่ ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ 5 จังหวัด คือ ระยอง สมุทรสาคร ชุมพร สงขลา และพังงา ต่อยอดสู่การพัฒนาเป็นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวิถีชุมชน ที่ต.บางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร และ ต.ปากน้ำประแส จ.ระยอง สนับสนุนกิจกรรมที่มีเป้าหมายสร้างความเข้มแข็งของชุมชน โดยมอบเงินสำหรับเป็นกองทุนหมุนเวียนที่ดูแลและบริหารโดยชุมชนเอง สามารถนำไปส่งเสริมด้านอาชีพของชาวบ้านในชุมชนให้มีรายได้ พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบันอยู่ในระยะที่สองของการดำเนินโครงการฯ (ปี 2562-2566 ) มีเป้าหมายอนุรักษ์ ฟื้นฟู และปลูกป่าเพิ่มเติม พื้นที่ จ.ระยอง สมุทรสาคร และตราด
12 เมษายนของทุกปี ตรงกับวันป่าชุมชนชายเลนไทย เพื่อตระหนักถึงคุณค่าของผืนป่าชายเลน
- Super User
- เกษตรและสิ่งแวดล้อม
- อ่าน: 480
กรมฝนหลวงฯ ช่วยยับยั้งความรุนแรงของพายุลูกเห็บในพื้นที่ จ.เชียงใหม่
วันที่ 11 มีนาคม 2565 นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า ในระยะนี้ทางตอนบนของประเทศมีอากาศค่อนข้างร้อนอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสในการเกิดฝนฟ้าคะนองและพายุลูกเห็บบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และตาก
- สัตวแพทย์ ย้ำระบบการเลี้ยงปลาทับทิมมีมาตรฐาน ปลอดภัย ใส่ใจสัตว์-ผู้บริโภค-สิ่งแวดล้อม
- สภาเกษตรกรแห่งชาติจัดเวทีรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ ด้านข้าวและชาวนาไทย 4 ภาค
- เกษตรศาสตร์ รวมพล “คนมะม่วง”เครือข่ายภาครัฐ และเอกชน รวมพลัง หนุนมะม่วงไทยพร้อมส่งออก “อร่อย และปลอดภัย”
- กรมฝนหลวงฯ ร่วมกับ ทอ. ปฏิบัติการยับยั้งและสลายลูกเห็บพื้นที่ภาคเหนือ