วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick off โครงการ “Prem’s Plearn” จุดพลังครอบครัว ชุมชน ร่วมพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างพื้นที่การเรียนรู้ การจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ และการส่งเสริมบทบาทของครอบครัวในการพัฒนาเด็กและเยาวชนในชุมชนให้เติบโตเป็นพลเมืองที่ดี มีคุณภาพ อีกทั้งช่วยให้เด็ก เยาวชนในวัยเรียนได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเด็กไม่ให้หลุดออกจากระบบการศึกษา โดยมี นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน คุณสุกัญญา ประจวบเหมาะ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ และ อุปนายกที่ 1 และประธานฝ่ายพัฒนาสตรี สมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิกและเอเชียอาคเนย์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ รวมถึงผู้บริหารสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน), กรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขตจตุจักร ประธานและผู้นำชุมชนประชาร่วมใจ 1 พร้อมพ่อแม่ ผู้ปกครอง เด็กและเยาวชนในชุมชนประชาร่วมใจ 1 และผู้แทนสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย เข้าร่วมงาน ณ ชุมชนประชาร่วมใจ 1 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
นายอนุกูล กล่าวว่า ปัจจุบัน สถานการณ์สังคมไทย กำลังเผชิญกับวิกฤตประชากร เป็นสังคมสูงวัย ในขณะที่เด็กเกิดน้อย และวัยแรงงานต้องแบกรับภาระพึ่งพิงมากขึ้น โดยมีเด็กและเยาวชน จำนวน 18,978,917 คน คิดเป็น 29.65 ของประชากรไทย (64.98 ล้านคน) แบ่งเป็นเด็ก 0 - 17 ปี จำนวน 12,436,691 คน และเยาวชน 18 - 25 ปี จำนวน 6,542,226 คน (ข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทย ณ ตุลาคม 2567) และด้วยอัตราการเกิดน้อยกว่าอัตราการตาย เด็กถือเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญ และมีคุณค่าของประเทศ
ขณะนี้ สถานการณ์ปัญหาของเด็กและเยาวชนไทย กำลังเผชิญกับความเสี่ยงและความไม่ปลอดภัยในทุกมิติ จากสังคม สิ่งแวดล้อม และสิ่งเร้าต่างๆ ที่เป็นอันตราย ซึ่งเราพบเห็นได้จากข่าวในสื่อต่างๆ เช่น การถูกทำร้ายร่างกาย การถูกล่วงละเมิดทางเพศ การถูกทอดทิ้งละเลย และเลี้ยงดูไม่เหมาะสม ดังนั้น คนในชุมชนจึงเป็นกำลังสำคัญในการเฝ้าระวังปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกหลาน
นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายวราวุธ ศิลปอาชา) ได้ขับเคลื่อนนโยบายการเพิ่มคุณภาพและผลิตภาพของเด็กและเยาวชน คือ เด็กเกิดน้อย แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพ โดยมีมาตรการสำคัญในการทำให้เด็กได้รับการพัฒนาทักษะชีวิต และทักษะวิชาชีพตามวัย รวมถึงการส่งเสริมศักยภาพ คุ้มครอง พิทักษ์สิทธิ และจัดสวัสดิการสังคม เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยอย่างสร้างสรรค์ ด้วยศักยภาพและความสามารถ เพื่อ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป
สำหรับการพัฒนาชุมชนริมคลองเปรมประชากร นั้น ทำให้เราได้เห็นถึงการมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองเปรมประชากร โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งครอบครัวและชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมพัฒนาและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ภายใต้หลักการชุมชนนำชุมชนเป็นฐาน กิจกรรมโครงการมาจากความต้องการของชุมชน ซึ่งชุมชนประชาร่วมใจ 1 แห่งนี้ จะเป็นชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก เยาวชน และครอบครัวสำหรับพื้นที่ชุมชนเมืองอื่นได้ ต่อไป
นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าเรายืนหยัด จะทำให้ชุมชนเปลี่ยนเป็นชุมชนต้นแบบอย่างแท้จริง ซึ่งเราต้องช่วยกันสแกนทุกคน ทุกสิ่งในชุมชน และเราต้องให้โอกาสกับคนที่เคยทำผิดพลาด สำหรับกิจกรรมวันนี้ ต้องขอบคุณ สำนักงานเขตจตุจักรและกรุงเทพมหานคร ที่ช่วยให้การสนับสนุน โดยเฉพาะประธานชุมชนประชาร่วมใจ 1 ซึ่งมีความเข้มแข็ง และเชื่อว่าชุมชนแห่งนี้จะขยายผลแนวความคิด การสื่อสารความเป็นต้นแบบของชุมชนที่ส่งเสริมคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ที่จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคต ไม่ใช่แค่เฉพาะในพื้นที่นี้ แต่จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศไทย ดังนั้น จึงขอให้กำลังใจพ่อแม่ผู้ปกครอง ด้วยต้องต่อสู้กับสภาพปัญหาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งกระทรวง พม. รวมถึงภาคีเครือข่าย พร้อมให้การสนับสนุนชุมชน โดยเฉพาะให้พ่อแม่ผู้ปกครองมีความพร้อมทั้งกายและใจในการดูแลบุตรหลาน
นางอภิญญา กล่าวว่า โครงการ “Prem’s Plearns จุดพลังครอบครัว ชุมชน ร่วมพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างยั่งยืน” มีการวางแผนจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องร่วมกับชุมชน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน - กันยายน 2568 ผ่าน 5 รูปแบบกิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมพัฒนาศักยภาพ เสริมสร้างทักษะชีวิตของเด็กและเยาวชน เสริมสร้างความรู้ให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองในการเลี้ยงดูลูกเชิงบวก การจัดตั้งและขับเคลื่อนสภาเด็กและเยาวชนของชุมชน
สำหรับงานวันนี้ มีการมอบทุนการศึกษา จำนวน 18 ราย , การมอบอุปกรณ์การเรียน จำนวน 129 ราย ภายใต้กิจกรรมเปิดเทอมใหม่ ส่งน้องไปเรียน นับเป็นปีที่ 4 โดยได้รับการสนับสนุนกระเป๋า รองเท้า และถุงเท้า จากสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ สมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิกและเอเชียอาคเนย์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ มูลนิธิคุ้มเกล้าเยาวชนคนสร้างชาติ และมูลนิธิ Five for All และบูธกิจกรรมจากภาคีเครือข่ายด้านเด็กและเยาวชน ได้แก่ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน , Thailand Zero Drop out โดยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา, สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย, สมาคมสแต็คประเทศไทย (TSSA) , สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว, สหทัยมูลนิธิและมูลนิธิสุขภาพไทย, มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน. สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน), ปิดเทอมสร้างสรรค์ Happy School Break โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ มูลนิธิ Five For All และการมอบอาหารกล่องแช่แข็ง โดย Chef Cares (เชฟแคร์ส) 
